บทความ

สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอพามารู้จักกับ

บูดูสะอาด หาดวาสุกรี ภูเขาสลินดง คงวัฒนธรรม งานล้ำเมืองสาย

คุ้นๆใช่ไหมเอ่ย ? ใช่เเล้วค่าา จะพามารู้จักกับเมืองสายบุรีนั่นเอง

ถ้าพร้อมที่จะไปทำความรู้จักกับเมืองสายบุรีเเล้ว เราไปทำความรู้จักกันเลย !

ก่อนที่เราจะไปออนทัวร์กันนั้น ผู้เขียนจะพามาทำความรู้จักกับที่มาของ “เมืองสายบุรี” คร่าวๆกันก่อนเลยน้า

สายบุรีเป็นอำเภอเก่าแก่ของจังหวัดปัตตานี ในอดีตเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๘ มีฐานะเป็นเมืองหนึ่งในจำนวน ๗ หัวเมือง เรียกว่า “เมืองสายบุรี” มาถึง พ.ศ. ๒๔๔๔ ได้รับยกฐานะเป็นจังหวัดขึ้นกับมณฑลปัตตานี เรียกว่า “จังหวัดสายบุรี” แต่พอถึง พ.ศ. ๒๔๗๕ ก็ลดฐานะเป็นอำเภอขึ้นกับจังหวัดปัตตานี เรียกว่า “อำเภอสายบุรี” นั่นเอง

“วงเวียนหอนาฬิกา” เป็นวงเวียนที่จะวนหาเธอ เอ้ย ไม่ใช่555 หยอกๆ ><
นี่เป็นจุดที่บ่งบอกว่าเราได้มาเยือนถึงเมืองสายบุรีเเล้วนั่นเอง เเละข้างๆที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของเรา มันก็จะมีร้านค้ามากมาย มีขายอาหารต่างๆ เช่น มีข้าวหมกไก่ ยำต่างๆ ที่อร่อยมากๆเลยเเหละ พูดซะขนาดนี้เเล้ว 

ไม่มาไม่ได้เเล้วน้าาา เตือนละนะ 5555

นี่เป็นบรรยากาศที่ วงเวียนหอนาฬิกา ในตอนกลางคืน ก็ยังมีร้านค้า หรือพ่อค้าเเม่ค้าที่ยังขายจนถึงตอนกลางคืน ถ้าเราหิวอะไรตอนดึกๆเราก็ยังสามารถมาซื้อมากินได้
ดึกเเค่ไหนเราก็ไม่หวั่น เพราะเราสายอวบนั่นเองค่า 5555 ล้อเล่นนน
เราก็ยังมีที่ที่น่าสนใจอีกหลายที่ให้เราได้ลุ้นกัน ถ้าพร้อมเเล้ว ไปลุ้นพร้อมๆกันเลย Let’s go !

ที่เเรก เมื่อเราถึงวงเวียนหอนาฬิกานั้น เราก็จะได้เห็นกับ “วังพิพัธภักดี” นั่นเองค่า
เรามารู้ที่มาของวังนี้กันก่อนนะค่า

วังพิพิธภักดี (วังสายบุรึ) จัดว่าเป็นวัฒนธรรมด้านสถาปัตยกรรมเเห่งหนึ่ง ในพื้นที่สามจังหวัดชายเเดนภาคใต้ โบราณสถานแห่งนี้มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมเเละประวัติศาสตร์ วังนี้ตั้งตระหง่านอยู่ในพื้นที่ย่านความเจริญของ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

วังพิพิธภักดี อาคารไม้ 2 ชั้น ที่นำศิลปะแบบตะวันตกและศิลปะของท้องถิ่นมาผสมผสานกัน คือมีหน้ามุขแบบตะวันตก ลูกกรงบันไดเป็นลายปูนปั้นรูปดอกไม้ ผนังกั้นห้องภายในอาคาร เป็นผนังโค้งอิทธิพลศิลปะตะวันตก มีช่องลมเป็นลวดลายพรรณพฤกษาอิทธิพลศิลปะชวา

ด้วยสภาพที่ยังคงความงดงามอย่างสมบูรณ์แบบ และได้มีการดูแลตกแต่งวังหลังนี้ให้คงอยู่ในสภาพเดิม วังพิพิธภักดี จึงเป็นวังอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานีที่น่าศึกษาเรียนรู้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆ ของอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี
มาเเล้วต้องมาที่นี่ให้ได้นะ เชฟเตือนละนะ เอ้ยไม่ใช่ 555

ใกล้ๆกันเราก็จะได้พบกับ “วัดวิมลพัฒนาราม หัวเขา” นั่นเองค่า
นี่ก็เป็นวัดที่สวยงามอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจมากๆเลยเเหละ วัดนี้จะมีคนมากราบไหว้เยอะมากๆ ด้านในจะมีเขาที่พุทธศาสนิกชนได้ขึ้นไปกราบไหว้เเละยังสามารถเห็นบรรยากาศด้านล่างที่เห็นรถสัญจรไปมาอีกด้วยนั่นเองค่า

ที่ที่เราต้องมาเยือนอีกที่นั่นก็คือ “ภูเขาสลินดงบายู” ค่าาา
หารู้ไม่ว่า ภูเขานี้มี "ถ้ำปิด" ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ที่เชิงเขาด้านหลังสำนักงานเทศบาลตำบลตะลุบัน เป็นปากถ้ำขนาดไม่ใหญ่นักแต่มีหินปิดสนิทอยู่ ส่วนทางด้านหลังเขามีโพรงปรากฏอยู่และที่ศาลาเชิงเขา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทรายแดง ศิลปะร่วมสมัยอยุธยาปางมารวิชัย 2 องค์ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุแล้ว นับเป็นประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่งเลยเเหละค่ะ อีกทั้งตอนเย็นๆยังมีพี่ๆน้องๆมาวิ่งออกกำลังกาย เราก็ยังสามารถมาวิ่งออกกำลังกายให้วันเเพคขึ้น เอ้ย ! ให้ซิกเเพคขึ้น ผ่ามผ้าม 555

ถ้าเรามาสายบุรีตอนเช้าๆ เราต้องมา “ตลาดสดตะลุบัน” น้าาา เพราะมันมีอาหารทะเลที่สดมากกกก สดกว่านี้ไม่มีอีกเเล้วววว !
เเละตลาดนี้เป็นตลาดเปิดตั้งแต่เช้า เวลา 06.00-12.00 น. และจะมีแม่ค้าในท้องถิ่นและนอกท้องถิ่นมารวมตัวขายของ เพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทสัตว์ เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารอันมีสภาพเป็นของสด ประกอบหรือปรุงแล้ว หรือของเสียง่าย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นด้วยหรือไม่ก็ตาม และหมายความรวมถึงบริเวณซึ่งจัดไว้สำหรับให้ผู้ค้าใช้เป็นที่ชุมนุมเพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทดังกล่าวเป็นประจำทุกเช้าเลย มาเดินๆอาจได้เนื้อคู่กลับมาก็ได้นะ เอ้ยไม่ใช่ละ555

เเละเเล้วเรามาถึงสถานที่ที่เป็น signature ของอำเภอสายบุรี นั่นก็คือ ! หาดวาสุกรี นั่นเองค่าาาาา
ก่อนอื่นเรามารู้ที่มาของหาดวาสุกรีกันก่อนน้าาาา

หาดวาสุกรี อยู่ในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพราะเป็นศูนย์รวมของ นักกีฬาตกปลาจากทั่วประเทศ ซึ่งทางจังหวัดได้จัดให้มีการแข่งขันตกปลาเป็นประจำทุกปีเลย เเละด้านในนั้นจะมีบรรยากาศยังไงกันนั้นเรามาชมรูปถัดไปได้เลยค่า

พอเราได้ขับเข้ามาเเล้วเราจะเจอกับวงเวียนเเห่งนี้ รอบๆเราก็จะเจอพ่อค้าเเม่ค้ามาขายอาหารต่างๆ มีลูกชิ้น มีน้ำขายให้เราได้ไปกินริมทะเลอย่างสบายใจได้รับบรรยากาศที่บอกไม่ถูกเลยแหละ เเละยังทำให้มีความรู้สึกที่อยากจะเล่นน้ำเเต่ผู้เขียนคงทำได้เพียงเขี่ยน้ำเล่นเพราะทางเราว่ายน้ำไม่เป็น ผ้ามผ่ามมม ! 555

ถ้าเราขับถึงวงเวียนสายตาเราจะมองไปที่สนามเด็กเล่น ที่ให้เด็กๆเค้าได้ไปเล่นกันอย่างสนุกสนานเเละยังมีที่ที่ให้เราได้ดูน้องๆได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน เเละทางเราก็ไม่พ้นจากของกินที่เรายังสามารถกินพลางดูน้องๆไปพลางๆอีกด้วยนั่นเองค่า เราเกริ่นมาซะขนาดนี้เเล้ว ผู้อ่านต้องมาเยือน มาเล่นน้ำ เเล้วเเหละจังหวะนี้ 5555

ที่สายบุรีก็ยังมี “ห้องสมุดประชาชนอำเภอสายบุรี” อีกด้วยน้า มันอยู่ทางเดียวกันที่จะไปทะเลเลย เราสามารถเข้าไปอ่านหนังสือชิวๆสบายๆ ยืมหนังสือได้ ผู้เขียนได้ลองเข้าไปเเล้วบรรณารักษ์สวยๆกันทั้งเลย เเละบรรยากาศมันสงบมากๆ รึเราจะไปนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตฟรีไว้คุยกับคนสำคัญได้อีกต่างหาก เอ้ยไม่ใช่55 เรามาใช้อินเทอร์เน็ตไว้ทำงานหาข้อมูลได้นั่นเองค่าาา 555

ที่สายบุรีนั้นก็ยังมี รีสอร์ทให้พัก นั่นก็คือ “สายบุรีรีสอร์ท” ถ้าเราจะไปทะเลเราจะต้องเจอกับรีสอร์ทนี้อยู่ฝั่งซ้ายมือทางเดียวกับทางที่เราจะไปทะเลเลย เราได้เที่ยวทุกที่เเล้วของสายบุรีเเล้วถ้าเรายังไม่มีที่พัก ให้เรานึกถึง “สายบุรีรีสอร์ท” โปรโมทขนาดนี้สปอนเซอร์ต้องเข้าให้ผู้เขียนเเล้วเเหละ หยอก 5555

นี่ก็เป็น signature อีกที่ที่เราควรมาเยือนนั่นก็คือที่ “มัสยิดรายอ”
เรามารู้ประวัติความเป็นมาของที่นี่กันก่อนน้า

มัสยิดรายอ มัสยิดขนาดเล็ก ตามบันทึกของกรมศิลปากรสร้างขึ้นในปี 2428 สร้างพร้อมๆกับวังสายบุรี  โดยดำริของเจ้าเมืองสายบุรี สร้างเป็นมัสยิดประจำตระกูลและเป็นที่ฝังศพของคนในตระกูล ออกแบบก่อสร้างโดยสถาปนิกชาวมินังกาเบา อินโดนีเซีย(ศิลปะชวา)และมีผู้ร่วมก่อสร้างเป็นช่างท้องถิ่นไทย(ศิลปะลังกาสุกะ)

เเละยังเคยมีการรื้อส่วนที่เป็นศาลาออกเพื่อขยายระเบียงรอบๆมัสยิด แต่มีความผิดพลาดจึงเกิดการพังทลายลงมาของหลังคาและถูกทิ้งร้างไปนาน ภายหลังมีการสำรวจและบูรณะครั้งยิ่งใหญ่ จนเมื่อล่าสุดในปี พ.ศ.2561 มัสยิดแห่งนี้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทอาคาร หมวดปูชนียสถาน โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

นี่เป็นบรรยากาศด้านในของมัสยิดรายอ จะบอกว่าผู้เขียนได้เคยเข้าไปละหมาดในมัสยิดเเห่งนี้เเล้วด้านในมันสวยมากๆเลยค่ะ
ที่นี่มันทำให้เราจิตใจสงบมากๆ เเละบรรยากาศก็ดีมากๆอีกเช่นกัน
ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านได้มาละหมาดเเละได้รับบรรยากาศภายในมัสยิดเช่นเดียวกับที่ผู้เขียนได้สัมผัสถึงความสงบ ความสวยงาม เเละมีประวัติให้เราได้เรียนรู้อีกด้วย เพลานี้ไม่มาเยือนไม่ได้เเล้วละค่าาา

ถ้าเรานึกถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุดในสายบุรีเเละขึ้นชื่อว่าตลาดนัดเสื้อมือสองที่เเบบสภาพดีๆ ให้นึกถึงตลาดอะไรค่า ? ใช่เเล้วว
“ตลาดนัดกาหยี” นั่นเองค่าาาา
เรามารู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของตลาดนัดเเห่งนี้กันนะคะ

ตลาดนัดกาหยี อยู่ที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นตลาดนัดเปิดทุกๆวันพุธและเป็นตลาดนัดที่ใหญ่สุดของอำเภอสายบุรีเลยก็ว่าได้ เป็นแหล่งรวมของสินค้ามือสองมากมาย ตลาดนัดแห่งนี้มีพื้นที่ใหญ่มากถ้าเดินหมดทั้งตลาดนี้คงเหนื่อยน่าดูเลย เพราะตลาดนัดแห่งนี้ไม่ได้แบ่งโซนเหมือนกับตลาดนัดอื่นๆ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าตลาดนัดได้มีคนขายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมากเลย ทำให้การขายแต่ละโซนกระจัดกระจาย ถ้าได้มาที่นี่ต้องเดินให้ทั่วเลยนะคะ ส่วนขาช็อปปิ้งขาประจำส่วนมากจะใช้รถมอเตอร์ไซร์เพื่อเวียนหาของเพื่อที่จะได้เวียนครบทั้งตลาดนัดแห่งนี้ เเละตลาดนี้จะเปิดตั้งเเต่เวลา 11:00-18:00น.

เเละที่นี่ก็ยังมีอาหารอร่อยๆมากมายได้เลือกซื้อกัน มีพ่อค้าเเม่ค้ามาขายของมือสองเยอะมากๆ เช่น เสื้อผ้ามือสองราคาประหยัดมากกกก เริ่มต้นเเค่10บาทเอง เเถมยังสภาพดีๆกันทั้งนั้น มีรองเท้ามือสอง มีของใช้พวก จาน ชาม มือสองอีกด้วย จะบอกว่าตลาดนี้ที่เด่นๆคือของมือสอง
ผู้เขียนได้โม้ยาวขนาดนี้เเล้ว ผู้อ่านจะลังเลไม่ได้เเล้วนะ ต้องมาเเล้ววววว !! 

ที่สายบุรีก็ยังมีคาเฟ่ร้านอาหารเยอะมากกกก แต่ที่เเรกที่ผู้เขียนจะเเนะนำคือร้าน “นมหมี”
ที่นี่เป็นร้านคาเฟ่ที่ตะมุตะมิ กิ๊งก่องเเก้วมากกก เเค่ชื่อก็น่ารักเเล้วว ร้านนี้มีน้ำอร่อยๆเยอะมาก เริ่มต้นเเค่ 25 บาทเอง
อีกทั้งที่นี่จะมีเด็กนักเรียนมานั่งดื่มภายในร้านเยอะ เพราะบรรยากาศในร้านมันสบายตาสุดๆไปเลย 

เเละนี่คือที่ที่สองที่ผู้เขียนจะเเนะนำ นั่นก็คือร้าน “ข้าวต้มกุ๊ย” นั่นเองงง
บรรยากาศกลางคืนของร้านนี้คือน่าไปสุดๆเพราะทั้งไฟ ผู้คนต่างๆต่างพากันมาร้านนี้ มีจุดให้ถ่ายรูปลงสตอรี่ในเเอพอินสตาเเกรมได้
เสมือนเราอยู่ในตัวเมืองเลยเเหละทั้งไฟเอย อาหารเอย ลงตัวสุดๆไปเลยค่าาา เเละร้านนี้มีขายอาหารเเละเครื่องดื่มอย่างมากกกก
จนผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านได้มานั่งกินร้านนี้เลยทีเดียว ไม่มาไม่ได้เเล้วละค่าาาา 

เเละเเล้วเราก็มาถึงโรงเรียนที่เมื่อเรานึกถึงเมืองสายบุรี ก็ต้องนึกถึงโรงเรียนไรเอ่ย ? ใช่เเล้วววว ! ก็ต้องนึกถึง “โรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา” นั่นเองค่าาา
ก่อนที่เราจะไปดูบรรยากาศด้านในว่ามันเป็นอย่างไรนั้นเราก็ต้องมารู้ประวัติความเป็นมาคร่าวๆของโรงเรียนเเห่งนี้กันก่อนเลย ถ้าพร้อมเเล้ว ไปกันเลย !

โรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2511 โดยนายนิเดร์ วาบา เดิมชื่อโรงเรียนอัลมะอ์ฮัดดุลญีฮาดุลอิสลามีย์ เปิดสอนวิชาศาสนาในระดับ อิบติดาอีย์ เพียงอย่างเดียว

ปัจจุบันโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา ตั้งอยู่เลขที่ 263 ถนนท่าเสด็จ ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มีนายนิเดร์ วาบา เป็นผู้รับใบอนุญาตและผู้จัดการ นาย อุสมาน อารง เป็นผู้อำนวยการนั่นเองค่า 

เเทนเเท่นนนน ! เเละนี่ก็จะเป็นบรรยากาศด้านในของโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา สวยใช่ไหมล๊าาา ?
โรงเรียนเเห่งนี้ได้รับรางวัลมามากมายก่ายกองมากเเละที่น่าภูมิใจของโรงเรียนก็คือได้รับรางวัลพระราชทานโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ บอกเลยว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเชียว ขอพื้นที่อวยรร.ตัวเองแปปนึงค่า555
มีทั้ง อนุบาล ประถม มัธยม จะว่าไปรร.ก็มีทุกระดับชั้นเลยทีเดียว
มีมัสยิดสองชั้น ที่ใหญ่มากๆ เเละเป็นจุดเด่นของโรงเรียนเลย ถ้าอยากรู้ลึกเกี่ยวกับโรงเรียนเเห่งนี้ต้องมาเรียนที่นี่เเล้วเเหละจังหวะนี้ หุหุ >< 

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ดิฉัน : Sau Saudah ขอบคุณค่ะ